ก๊าซธรรมชาติและก๊าซธรรมชาติเหลว
ก๊าซธรรมชาติและก๊าซธรรมชาติเหลว เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่รวมตัวกันโดยมีสัดส่วนของอะตอมที่แตกต่างกัน คือ ก๊าซมีเทน (methane;CH4) ก๊าซอีเทน (ethane; C2H6) ก๊าซโพรเพน (propane;C3H8) ก๊าซบิวเทน (butane; C4H10) ก๊าซเพนเทน (pentane; C5H12) ก๊าซเฮกเทน (hextane; C6H14) ก๊าซเฮปเทน (heptane; C7H16) และก๊าซออกเทน (octane; C8H19) นอกจากนี้ยังอาจมีก๊าซอื่นเจือปนอยู่ด้วย เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (H2S) และก๊าซไนโตรเจนประโยชน์ของก๊าซธรรมชาติและก๊าซธรรมชาติเหลว สามารถจำแนกคุณสมบัติของชนิดก๊าซและการใช้ประโยชน์ได้เป็น 3 ประเภท คือ
ก๊าซแห้ง (dry gas) ได้แก่ ก๊าซที่มีองค์ประกอบของก๊าซมีเทนและอีเทน ซึ่งมีสถานะเป็นก๊าซที่มีอุณหภูมิและความดันปกติ ใช้เป็นวัตถุดิบผลิตก๊าซเหลว (liquefied natural gas;LNG) เพื่อบรรจุถังและขนส่งไปจำหน่ายต่างประเทศได้ ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเมธานอล ปุ๋ย ไนโตรเจน แอมโมเนีย และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีต่างๆ ใช้แทนน้ำมันเตาในการผลิตกระแสไฟฟ้าและใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ
ก๊าซชื้น (wet gas) ได้แก่ ก๊าซที่มีองค์ประกอบของก๊าซโพรเพนและบิวเทน มีสถานะเป็นก๊าซที่มีอุณหภูมิและความดันปกติ ใช้เป็นวัตถุดิบผลิตก๊าซปิโตรเลียมเหลว (liquefied petroleum gas;LPG) หรือก๊าซหุงต้ม ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหุงต้มในครัวเรือน ขับเคลื่อนรถยนต์ ใช้กับระบบตู้เย็นและเครื่องทำความเย็น ใช้เป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานกลั่นน้ำในดิบบางส่วน และใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมชนิดต่างๆ
ก๊าซธรรมชาติหรือก๊าซโซลีนธรรมชาติเหลว (condensate) คือ ก๊าซที่มีองค์ประกอบของก๊าซเพนเทน เฮกเทน และออกเทน ซึ่งมีสภาพเป็นก๊าซเมื่ออยู่ในแหล่งกักเก็บและจะมีสภาพเป็นของเหลว เมื่อนำขึ้นมาถึงปากบ่อบนแท่นผลิต สามารถแยกออกจากก๊าซธรรมชาติได้เลยจากบนแท่นผลิต ใช้เป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานกลั่นน้ำมัน ใช้นำไปเพิ่มออกเทนให้เท่ากับน้ำมันเบนซิน ใช้กับรถยนต์ และใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น